วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556

  


             กลอนแปด คือ


          แบบแผนในการร้อยกรองอย่างหนึ่ง 1 บทมีแปดวรรค วรรคละ 7-9 คำ มีสัมผัสระหว่างวรรค และสัมผัสระหว่างบท














แผนผังกลอน 8

แผนผังกลอน 8






ลักษณะคำประพันธ์


๑.  บท บทหนึ่งมี ๔ วรรค

วรรคที่หนึ่งเรียกวรรคสดับ      วรรคที่สองเรียกวรรครับ
วรรคที่สามเรียกวรรครอง       วรรคที่สี่เรียกวรรคส่ง
แต่ละวรรคมีแปดคำ จึงเรียกว่า กลอนแปด

๒.  เสียงคำ กลอนทุกประเภทจะกำหนดเสียงคำท้ายวรรคเป็นสำคัญ กำหนดได้ ดังนี้
          คำท้ายวรรคสดับ กำหนดให้ใช้ได้ทุกเสียง
          คำท้ายวรรครับ กำหนดห้ามใช้เสียงสามัญกับตรี
          คำท้ายวรรครอง กำหนดให้ใช้เฉพาะเสียงสามัญกับตรี
          คำท้ายวรรคส่ง กำหนดให้ใช้เฉพาะเสียงสามัญกับตรี

 ๓. สัมผัส

          ก. สัมผัสนอก หรือสัมผัสระหว่างวรรค อันเป็นสัมผัสบังคับ มีดังนี้
คำสุดท้ายของวรรคที่หนึ่ง (วรรคสดับ) สัมผัสกับคำที่สามหรือที่ห้า ของวรรคที่สอง (วรรครับ)
คำสุดท้ายของวรรคที่สอง (วรรครับ) สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่สาม (วรรครอง) และคำที่สามหรือที่ห้าของวรรคที่สี่ (วรรคส่ง)

สัมผัสระหว่างบท ของกลอนแปด คือ
คำสุดท้ายของวรรคที่สี่ (วรรคส่ง) เป็นคำส่งสัมผัสบังคับให้บทต่อไปต้องรับสัมผัส ที่คำสุดท้ายของวรรคที่สอง (วรรครับ)

ข.   สัมผัสใน แต่ละวรรคของกลอนแปด แบ่งช่วงจังหวะออกเป็นสามช่วง ดังนี้
หนึ่งสองสาม – หนึ่งสอง – หนึ่งสองสาม
ฉะนั้นสัมผัสในจึงกำหนดได้ตามช่วงจังหวะในแต่ละวรรคนั่นเอง ดังตัวอย่าง
อันกลอนแปด – แปด คำ – ประจำวรรค
วางเป็นหลัก – อัก ษร – สุนทรศรี


ตัวอย่างกลอนแปด



    เศรษกิจพอเพียงเพียงพอใช้
ทรัพย์ที่ได้พึงประมาณการซื้อหา


รู้พอดีเก็บหอมออมเงินตรา


เพื่อวันหน้าคราลำบากไม่ยากจน

กรอบแนวคิด ห้าส่วนควรตระหนัก


ยึดเป็นหลักบริหารพลันเกิดผล

พระราชดำรัสปรัญญาสู่สากล

น้อมกมลตามรอยพ่อ...เศรษกิจพอเพียง





Header














วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

ตัวอย่างการเขียนกลอนแปด
เศรฐกิจพอเพียง
 
เศรษกิจพอเพียงเพียงพอใช้
ทรัพย์ที่ได้พึงประมาณการซื้อหา
รู้พอดีเก็บหอมออมเงินตรา
เพื่อวันหน้าคราลำบากไม่ยากจน
กรอบแนวคิด ห้าส่วนควรตระหนัก
ยึดเป็นหลักบริหารพลันเกิดผล
พระราชดำรัสปรัญญาสู่สากล
      น้อมกมลตามรอยพ่อ...เศรษกิจพอเพียง 






คำว่าพอดี อยู่ที่เพียงพอ
ปรัชญาของ พ่อเศรษฐกิจพอเพียง
สังคมสุขล้ำ วัฒนธรรมงามเพี้ยง

อยู่อย่างไม่เสี่ยง ชาติไทยเจริญ
เศรษฐกิจดี สังคมมีวัฒนธรรม
ขยันหา ขยันทำ รักพ่อต้อง พอเพียง
สิ่งสำคัญนั่นหรือคือประหยัด
เศรษฐกิจไม่ติดขัดขจัดเสี้ยนหนาม
เน้นรายรับรายจ่ายให้พองาม
ทั่วเขตคามหากทำได้ไม่ระทม
ความพอเพียงเพียงพอไม่ก่อหนี้
ชีวิตนี้จะมีสุขทุกข์ไม่ข่ม
ความพอดีดีหนักหนาน่านิยม
ร่วมชื่นชมตามรอยบาทชาติเจริญ





อุ่นไอรัก...จากแม่

กลิ่นความรักหอมนวลอวลไออุ่น
มือละมุนเนียนนุ่มอุ้มโอบขวัญ
ทะนุถนอมตระกรองกอดยอดชีวัน
ประครองป้องผองภยันอันตราย
กี่สิบถ้อยร้อยคำรำพันพรอด
ที่ถ่ายทอด "คำรัก" หลากความหมาย
กี่เปรียบเปรยสรรหามาบรรยาย
ฤาเทียบสายใยรักจาก...มารดา
ครั้งที่ลูกยังเป็นเด็ก เล็กเล็กอยู่
แม่คือ "ครู" สอนอ่านเขียนเรียนภาษา
ให้คำเตือน...เสมือนแสงแห่งปัญญา
ให้วิชาคือ "รู้คิด" ที่ติดตน
ยามลูกเหนื่อยอนาทรแสนอ่อนล้า
ต้องการคำปรึกษาหาเหตุผล
แล้วหันมองรอบกาย...คล้ายมืดมน
ยังพบคนหนึ่ง...คือแม่...คอยแลมอง
แม่จ๋า...แม่คือยอดสตรีที่ประเสริฐ
แม่...เลอเลิศหนึ่งในใจไม่เป็นสอง
แม่...สูงค่ากว่าหยาดเพชรเกร็ดสีทอง
เกินยกย่องด้วยล้านคำ...พร่ำพรรณนา
หอมกลิ่นความรักนวลอวลไออุ่น
ระลึกคุณ แม่โอบอุ้มคุ้มเกศา
มือของลูกจึงเรียงร้อยถ้อยวาจา
เป็นมาลาหอม "รัก" กราบจากใจ